>>
เกี่ยวกับสนามบิน
>>
ภายในสนามบิน
>>
บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณสมบัติของนักท่องเที่ยว
- ไม่เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- ไม่เป็นนักบินหรือลูกเรือของสายการบินที่เดินทางออกนอกประเทศไทย
- เดินทางออกนอกประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ
- ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่อยู่ในระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวโดยให้สังเกตสัญลักษณ์
แสดงไว้ที่ร้านค้า
- ซื้อสินค้ารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000.- บาท
- ไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
ขั้นตอนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- แบบขอคืนต้องได้รับการตรวจจากศุลกากรนักท่องเที่ยวต้องยื่นเอกสารการขอคืนภาษี (แบบ ภ.พ.10)และต้นฉบับใบกำกับภาษี)พร้อมนำสินค้าที่ขอคืนให้เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ประทับตราและลงชื่อ วันเดือนปีกำกับไว้ในแบบ ภ.พ.10 ช่องสำหรับเจ้าพนักงานศุลกากร
- สำรองที่นั่งและ Check-In กระเป๋าเดินทาง กรณีสินค้าประเภทอัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือนหรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา หรือปากกา ที่มีมูลค่าของสินค้าแต่ละชิ้นตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป นักท่องเที่ยวจะต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สรรพากรเพื่อรับการตรวจสินค้าตามคำร้องและประทับตราแสดงการตรวจพร้อมทั้งลงลายมือชื่อเจ้าหน้าที่และวันเดือนปีที่ตรวจในคำร้อง
- ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
- ยื่นแบบขอคืน (ภ.พ.10) และสินค้าที่มีราคาแพงต่อเจ้าหน้าที่สรรพากรเพื่อขอรับเงินภาษีคืน

สินค้าที่นักท่องเที่ยวมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- เป็นสินค้าที่ซื้อจากร้านค้าที่อยู่ในระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว ที่มีสัญลักษณ์

- นำสินค้าออกนอกประเทศ พร้อมการเดินทางโดยเครื่องบินภายใน 60 วันโดยนับวันที่ซื้อสินค้าเป็นวันแรก
- ไม่เป็นสินค้าต้องห้าม เช่น วัตถุระเบิด อาวุธปืน อัญมณีที่ยังไม่ได้ประกอบการขึ้นเป็นตัวเรือน
- สินค้าต้องมีราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ไม่ต่ำกว่า 2,000.- บาท
- สินค้านั้นต้องผ่านการตรวจจากศุลกากร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ
หมายเหตุ กรณีที่ขอคืนสินค้าราคาแพง มูลค่าชิ้นละตั้งแต่ 10,000.- บาท ต้องนำผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจและประทับตราลงนามกำกับอีกครั้งด้วย
สถานที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวประจำท่าอากาศนานาชาติทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ อู่ตะเภา กระบี่ และสมุย
Public Zone
International Zone
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม 